Search

สองครอบครัวคนดัง เลี้ยงลูกอย่างไรให้สมองดีมีภูมิคุ้มกัน - ผู้จัดการออนไลน์

jabaljuba.blogspot.com


>>สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากจะทำให้พ่อแม่มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพและภูมิคุ้มกันของลูกน้อยแล้ว เรื่องพัฒนาการที่ต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ช่วงเวลาที่อยู่บ้านจึงเป็นช่วงโอกาสทองที่พ่อแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ทั้งเรื่องโภชนาการ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และหลากหลาย รวมถึงเสริมด้วยนมที่มี MFGM สารอาหารที่พบในนมแม่ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแข็งแรง การทำงานของระบบประสาทและสมองดียิ่งขึ้น และการมีสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินอาหาร ควบคู่กับการเลี้ยงดูและจัดกิจกรรมที่เหมาะสม ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตทั้งร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ พร้อมเรียนรู้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต

การเลี้ยงลูกท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทายสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ที่จะต้องพร้อมรับมือและปรับตัวตลอดเวลา บริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้จัดกิจกรรม “A+ EXPERT TALK” รายการวาไรตี้ไลฟ์สไตล์ในรูปแบบไลฟ์ สตรีมมิงผ่านการพูดคุยให้ความรู้หลากหลายแง่มุมในการเลี้ยงลูกจากต่างสถานที่กันเป็นครั้งแรกบนเพจ Enfa Smart Club สอดรับกับแนวทาง การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อให้พ่อแม่ได้คลายความกังวล ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช คอยให้คำแนะนำ และ แดดดี้ อั๋น–ภูวนาท คุนผลิน ตัวแทนคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงลูก ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีต่อเนื่องบนเพจ Enfa Smart Club ที่สามารถเข้าถึงคุณพ่อคุณแม่บนโซเชียลแพลตฟอร์มทั่วประเทศ โดยมียอดการรับชมกว่า 1 ล้านวิว

รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์
รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ แนะนำว่า “ช่วงเวลาแบบนี้พ่อแม่ที่มีลูกเล็กจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยของลูก เพราะภูมิคุ้มกันของเด็กเล็กยังไม่แข็งแรง จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะ เมื่อลูกเริ่มออกไปเรียนรู้สังคมนอกบ้าน ขณะที่ เชื้อไวรัสมีอยู่รอบตัวมาก เมื่อติดเชื้อไวรัสเด็กอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด ท้องเสีย หรือมีอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และหลายโรคอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ไวรัสส่วนใหญ่รวมถึงโคโรนาไวรัส 2019 ติดต่อได้ผ่านการไอ จาม รดกัน รวมถึงการปนเปื้อนจากน้ำมูกและน้ำลาย แต่ถ้าดูแลสุขอนามัยพื้นฐานได้อย่างดี และไม่พาลูกไปอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะ พื้นที่ปิดซึ่งอากาศถ่ายเทได้น้อย ก็จะห่างไกลจากโรคนี้ได้ แต่สำหรับเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง นอกจากการดูแลสุขอนามัยแล้ว การเสริมเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ที่พ่อแม่สามารถช่วยได้คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย ซึ่งนอกเหนือจากการรับวัคซีนตามวัยแล้ว สำหรับเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน การได้รับนมแม่จะเป็นการส่งต่อภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด เพราะนมแม่คือโภชนาการที่ดีที่สุด อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายที่ร่างกายต้องการ หลัง 6 เดือนเป็นต้นไป เด็กจำเป็นต้องได้รับอาหารตามวัยร่วมกับการเสริมด้วยนมอย่างต่อเนื่อง

รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การได้รับโภชนาการที่เหมาะสมจะทำให้เด็กเติบโตสมวัย โดยสารอาหารที่ร่างกายต้องการ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) สารอาหารหลัก (Macronutrients) เป็นส่วนที่ร่างกายต้องการปริมาณมาก เพื่อให้พลังงานกับร่างกายและสมอง ซึ่งได้จากโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน 2) สารอาหารรอง (Micronutrients) ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย ไม่ได้ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่เป็นสารอาหารที่จำเป็นและขาดไม่ได้ ช่วยรักษาสมดุลให้กลไกการทำงานของร่างกาย ได้จากวิตามินและเกลือแร่ และ 3) สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Bioactive components) เป็นสารที่ได้รับจากอาหารและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้าได้รับเพิ่มเติมจากสารอาหารหลักและสารอาหารรอง หนึ่งในนั้นคือ MFGM สารอาหารในนมแม่ที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการและการทำงานของสมอง ตลอดจนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจและทางเดินอาหารให้กับเด็กได้”

สำหรับเด็กเล็กในช่วง 5 ขวบปีแรก จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการและพัฒนาการ ถึงแม้โอกาสการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมหรือสังคมนอกบ้านจะลดลง แต่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) ผ่านการคิด ฝึกสังเกต รู้จักการวางแผน การแก้ไขปัญหา ให้ลูกได้ฝึกทำอะไรด้วยตนเองในชีวิตประจำวัน เช่น สามารถจดจำแปรงสีฟันของตนเองได้ และอธิบายได้ว่าจำได้เพราะอะไร หรือฝึกให้ทานอาหารด้วยตนเองได้ เป็นต้น และการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อให้รู้จักและควบคุมอารมณ์ตนเอง และเข้าใจคนอื่น เช่น ชมเชยเมื่อลูกมีความพยายามหรือทำสิ่งต่างๆ ได้ดี เป็นการส่งเสริมความมั่นใจ ให้เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จักการแบ่งปัน กล่าวขอบคุณและขอโทษ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นทักษะสำคัญที่เด็กยุคนี้ควรมี เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ ซึ่งพัฒนาได้จากการมี IQ และ EQ ที่ดีควบคู่กัน

ดร.อั๋น–ภูวนาท คุนผลิน
คุณพ่อสุดเนี้ยบ อย่าง ดร.อั๋น–ภูวนาท คุนผลิน พร้อมลูกชายวัยกำลังซน น้องพอล ก็มาร่วมแชร์ประสบการณ์การดูแลลูกท่ามกลางสถานการณ์เฝ้าระวัง เพื่อคลายความกังวลให้พ่อแม่หลาย ๆ คน ได้ฟังว่า “ช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีมากในการเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรง เพราะได้ดูแลใกล้ชิดกว่าเดิม ทำให้เห็นพัฒนาการในทุกๆ วัน ผมตั้งใจใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูกให้มากที่สุดช่วงอยู่บ้าน เพราะเชื่อว่าภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถสร้างได้ ผมและจ๋าให้ความสำคัญกับโภชนาการตามวัยของน้องพอลมาก เราเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และพยายามปรับเปลี่ยนเมนูให้หลากหลายเพื่อให้ลูกได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ในทุกมื้อ แต่ก็มีบ้างที่ทานน้อยเพราะเป็นวัยที่ห่วงเล่น ต้องหากิจกรรมสนุกๆ ชวนเล่นให้ได้ออกกำลังกายเยอะๆ ก็ช่วยให้ทานได้มากขึ้น ร่วมกับดื่มนมเสริมเพื่อให้ได้รับสารอาหารเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น”

“นมที่เสริม MFGM สารอาหารที่พบในนมแม่ จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้น ทั้งด้าน IQ และ EQ รวมทั้งเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยให้มีสุขภาพของระบบทางเดินอาหารที่ดี ต้องยกความดีให้คุณจ๋าที่สรรหาแต่สิ่งที่มีประโยชน์มาให้ลูกได้ทาน น้องพอลดื่มนมเยอะมากมาตั้งแต่เด็ก เลยมีภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่สบายน้อยมาก ขับถ่ายเป็นเวลาและไม่มีปัญหาเรื่องท้องผูก เป็นสัญญาณที่ชี้ถึงการมีระบบขับถ่ายที่ดี น้องพอลก็จะอารมณ์ดี ไม่งอแง พร้อมเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ทั้งวัน ภูมิใจที่ได้เห็นเขาเติบโตมีพัฒนาการที่ดี ทั้งหัวคิดและหัวใจ ในทุกๆ วัน อั๋นกับจ๋ามักจะเห็นพัฒนาการของน้องพอลที่ทำให้ประหลาดใจได้อยู่เสมอ”

เปเป้–วาริธร กันท์ไพบูลย์
ด้านคุณแม่คนเก่ง อย่าง “เปเป้–วาริธร กันท์ไพบูลย์” ที่มีโอกาสได้รับชมไลฟ์ ก็ชวนลูกสาววัยเรียนรู้ น้องไอรา ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สนับสนุนพัฒนาการทั้งสติปัญญาและอารมณ์ไม่ให้สะดุดเพราะโควิด เปเป้เล่าว่า “ยิ่งได้อยู่บ้านยิ่งต้องเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูก เตรียมพร้อมไปจนถึงวันที่ต้องไปโรงเรียน จะปล่อยให้เขาได้เล่น ได้ทำกิจกรรมที่หลายอย่างทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพื่อกระตุ้นพัฒนาการสมองและร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะ เรื่องโภชนาการที่ให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีภูมิคุ้มกันและร่างกายที่แข็งแรง ปกติทำอาหารให้ลูกทานเองเป็นประจำอยู่แล้ว จึงเลือกแต่วัตถุดิบที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพและครบ 5 หมู่ในทุกมื้อ ช่วงนี้ไอรากำลังโตและเริ่มเลือกทานมากขึ้น จึงต้องมองหาเมนูใหม่ๆ มาดึงดูดความสนใจ และพยายามให้เขาได้เล่นสนุกและมีส่วนร่วมในการทำอาหาร ลูกจะภูมิใจและอยากทานอาหารฝีมือของตัวเอง”
“ที่สำคัญไอราดื่มนมเสริมจากมื้ออาหารหลักวันละ 2-3 แก้วทุกวัน เป้เลือกนมที่เสริม MFGM สารอาหารที่พบในนมแม่ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองทั้ง IQ-EQ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และช่วยให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น แม้จะแอบกังวลกับสถานการณ์ภายนอก แต่ในบ้าน เป้ได้ให้ความรักและดูแลลูกอย่างเต็มที่ เป้ก็ภูมิใจที่เห็นลูกสุขภาพดี มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ไม่เบื่อ ที่สำคัญคือการมีพัฒนาการดีและยังมีจิตใจดี สิ่งเหล่านี้แม่อย่างเราเห็นแล้วก็ภูมิใจ ถึงจะอยู่กับลูกทั้งวันทั้งคืนก็ไม่เหนื่อยและมีความสุขมาก อยากให้พ่อแม่ทุกคนเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด”


Let's block ads! (Why?)



"อย่างไร" - Google News
June 10, 2020 at 12:22AM
https://ift.tt/2MLtFfk

สองครอบครัวคนดัง เลี้ยงลูกอย่างไรให้สมองดีมีภูมิคุ้มกัน - ผู้จัดการออนไลน์
"อย่างไร" - Google News
https://ift.tt/3ctjMND


Bagikan Berita Ini

0 Response to "สองครอบครัวคนดัง เลี้ยงลูกอย่างไรให้สมองดีมีภูมิคุ้มกัน - ผู้จัดการออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.